Saturday, August 27, 2011

"กัดดาฟี"สิ้นอำนาจ กบฏตีเมืองหลวงแตก




โม อัมมาร์ กัดดาฟี ผู้ที่ครั้งหนึ่งเคยได้ชื่อว่า "ภราดาผู้นำและผู้ชี้ทางแห่งการปฏิวัติ" ของชาติลิเบีย ไม่อาจต้านทานกับกองทัพกบฏที่มีมหาอำนาจตะวันตก ในนามกองทัพ "นาโต้" หนุนหลังได้อีกต่อไป

การที่กรุงตริโปลี เมืองหลวงถูกตีแตก หมายถึงความปราชัยของ กัดดาฟี

แม้ เซฟ อัล-อิสลาม ลูกชายกัดดาฟี จะปรากฏตัวโต้ข่าวที่กบฏอ้างว่าจับตัวไว้ได้ในวันรุ่งขึ้น

หรือ กัดดาฟียังมีอารมณ์ส่งคลิปจากที่หลบซ่อนมาออกอากาศปลุกระดมให้กลุ่มผู้ภักดีขับไล่กบฏ

แต่การหวนคืนอำนาจอีกครั้งของกัดดาฟี...เหมือนเป็น "ศูนย์" แล้ว

ฝ่ายกบฏประกาศมอบเงินรางวัลให้สูงถึง 2 ล้านดินาร์หรือประมาณ 51 ล้านบาท ให้กับผู้ที่จับตัวพันเอกกัดดาฟีได้ ไม่ว่าจะเป็นหรือตาย

มุ สตาฟา อับเดล จาลิล ประธานคณะกรรมการรัฐบาลรักษาการแห่งชาติ หรือเอ็นทีซีของฝ่ายต่อต้าน เสนอนิรโทษกรรมคนใกล้ชิดกับพันเอกกัดดาฟี หากสังหารหรือจับพันเอกกัดดาฟีให้กับฝ่ายต่อต้านได้อีกด้วย!

ความล่มสลายของระบอบกัดดาฟีที่กินเวลาสู้รบมากว่า 7 เดือน เดินทางมาถึงจุดสิ้นสุดแล้ว

แต่อาจต้องใช้เวลาอีกยาวนานกว่าศึกจะสงบลงราบคาบ

นับ ตั้งแต่การรบพุ่งระหว่างกองทัพรัฐบาลกับกลุ่มกบฏเริ่มขึ้นเมื่อวันที่ 15 ก.พ. ตั้งต้นจากการเดินขบวนประท้วงจนกลายเป็นสงครามกลางเมืองเต็มรูปแบบ

นำมาซึ่งการแทรกแซงของกองกำลังนาโต้ ที่สนับสนุนฝ่ายกบฏมาโดยตลอด ทำให้ทั้งสองฝ่ายผลัดกันยึดครองพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ

โดยศูนย์กลางด้านหนึ่งอยู่ที่ตริโปลีทางตะวันตก อีกด้านอยู่ที่เบงกาซี เมืองกบฏทางตะวันออก

ในที่สุดเมื่อวันที่ 22 ส.ค. กองทัพกบฏเคลื่อนกำลังเข้าสู่ตริโปลี ยึดจัตุรัสเขียวใจกลางกรุงเอาไว้ได้สำเร็จ

สำนัก ข่าวทั่วโลกต่างพร้อมใจกันตีข่าวสัญญาณการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญทันที ท่ามกลางการเฉลิมฉลองของประชาชนฝ่ายสนับสนุนทั่วประเทศ ที่ต่างออกมาโบกธงชาติและจุดดอกไม้ไฟกันเอิกเกริก

เช่นเดียวกับที่เมืองเบงกาซี ซึ่งชาวเมืองออกมาชุมนุมยินดีเมื่อทราบข่าว

ความ น่ากังขาในเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในลิเบียยังเกิดจากข่าวที่กลุ่มกบฏจับกุมตัว ลูกชายกัดดาฟี 3 คน ทั้ง นายเซฟ อัล อิสลาม ซึ่งเคยมีข่าวว่าเสียชีวิตจากการโจมตีของนาโต้ก่อนหน้านี้ นายอัล-ซาอ์ดี กัดดาฟี และนายโมฮัมเหม็ด กัดดาฟี

แต่เพียงข้ามคืน เซฟ อัล อิสลาม กัดดาฟี บุตรชายคนสำคัญปรากฏตัวที่ด้านหน้าโรงแรมริซอส ในกรุงตริโปลี ท่ามกลางผู้สนับสนุนที่ตะโกนโห่ร้องด้วยความยินดี

ผู้คนคาดว่า ลูกชายตามไปสมทบกับกัดดาฟีแล้วตั้งแต่วันที่ 23 ส.ค. และยังหลบซ่อนอยู่จนถึงปัจจุบัน

ต่อ มาฝ่ายกบฏค้นพบว่า ข้างใต้ฐานที่มั่นของกัดดาฟี ในย่านบับ อัล-อะซิซิยา ของเมืองหลวง มีโครงข่ายอุโมงค์ใต้ดินซึ่งใช้เดินทางออกนอกเมืองได้ โดยผู้ออกแบบและดำเนินการสร้างเป็นผู้รับเหมาจากประเทศตะวันตก มีผู้รู้แผนผังภายในอยู่ไม่กี่คน

แต่การค้นพบนี้ก็ยังไม่ช่วยให้จับกัดดาฟีได้

เหตุวุ่นวายในตริโปลีครั้งนี้ยังส่งผลกระทบต่อผู้สื่อข่าวต่างชาติเป็นจำนวนมากที่เข้าไปทำข่าว

เมื่อถูกกองกำลังติดอาวุธกักขังไว้ในโรงแรมริซอสในกรุงตริโปลี โดยอ้างเหตุ ผลด้านความปลอดภัย

ต้องติดค้างอยู่ในโรงแรมรีซอสนานกว่า 5 วันโดยขาด แคลนทั้งอาหาร ไฟฟ้า

โดยถูกข่มขู่ว่า ถ้าคิดหนีจะถูกยิง!

คาดกันว่ากองกำลังของกัดดาฟีควบคุมตัวผู้สื่อข่าวกลุ่มนี้ไว้ในโรงแรมเพื่อหวังเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร รวมถึงใช้เป็นโล่มนุษย์

กระทั่ง เมื่อวันที่ 25 ส.ค. กลุ่มนักข่าวต่าง ชาติพากันหลบหนีออกมาได้ โดยอาศัยรถตู้ของหน่วยงานกาชาดสากล ช่วยนำผู้สื่อข่าวต่างชาติกว่า 30 ชีวิต ออกจากโรงแรมรีซอสไปยังโรงแรมอีกแห่งหนึ่ง

สําหรับความเคลื่อนไหว ทางการเมืองและการทูตเกี่ยวกับกรณีลิเบีย ปรากฏว่าคณะทูตานุทูตจากประเทศต่างๆ และจากสภาเอ็นทีซีของฝ่ายกบฏ เห็นพ้องร่วมกันให้ยกเลิกการอายัดทรัพย์สินลิเบียในต่างแดนรวมมูลค่า 1,500 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือราว 45,000 ล้านบาท

เพื่อนำเงินทั้งหมดนี้ไปช่วยเหลือรัฐบาลลิเบียใหม่และประชาชนลิเบีย

นอกจากนี้ ว่าที่รัฐบาลใหม่แห่งลิเบียยังประกาศเตรียมจัดให้มีการเลือกตั้งภายใน 8 เดือนข้างหน้า

เพื่อจัดตั้งรัฐบาลใหม่สำหรับบริหารประเทศ ตามระบอบประชาธิปไตย และเพื่อต้องการเป็นสมาชิกประชาคมโลก

ไม่ใช่โดดเดี่ยวตัวเองอย่างที่แล้วมา

ส่วนการตามหาตัวกัดดาฟีจะยังคงมีต่อไป และไม่ว่าจะจับกุมตัวได้เมื่อใดก็ตาม กัดดาฟีจะต้องถูกนำตัวขึ้นศาล

โดยจะเป็นศาลของลิเบียเท่านั้น

ส่วนจุดจบจะเป็นเหมือน "ซัดดัม ฮุสเซน" ของอิรักหรือไม่ อนาคตเท่านั้นที่ให้คำตอบได้

Related Posts by Categories



You want it? Click here | Yul Jet

No comments:

Post a Comment