Friday, August 19, 2011

สภานสพ.ไม่รับรอง ผลสอบ ที่หมอวิชัยแถลง

เตือน กกต.อย่านำไปใช้ "วิชัย"รีบเข้าให้การกกต. ในคดีที่ปชป.ร้องฟันพท. มาร์คไม่ปฏิเสธจม.ลับ ที่ระบุหมอชูชัยทุ่มเทให้ แต่โต้�ไม่ได้ตั้งตามที่ขอ

ข่าว สด-มติชนออกแถลงการณ์ชี้แจงข้อเท็จจริง และตอบโต้อนุกก.สภาการหนังสือพิมพ์ชุด "หมอ วิชัย" ไม่สามารถยอมรับผลสอบกรณีอีเมล์-สินบนได้ ระบุสอบนอกหน้าที่ ตั้งประเด็นขึ้นเอง เจตนาสร้างความเสียหาย และยังละเมิดจรรยาบรรณหนังสือพิมพ์เสียเอง "หมอวิชัย"ย่องชงข้อมูลให้กกต.ทันควันคล้อยหลังชิงแถลงผลสอบ รับลูกปชป.ที่ร้องยุบพรรคเพื่อไทย ผู้ทำหน้าที่ประธานสภาการหนังสือพิมพ์เผยสภาการหนังสือพิมพ์ยังไม่ได้รับรอง ผลสอบดังกล่าว และกกต.ไม่ต้องนำผลสอบไปพิจารณาเพราะไม่เกี่ยวกัน เปิดจ.ม. ความสัมพันธ์ใกล้ชิดหมอวิชัย-มาร์ค-ปชป. โยงใยหมอชูชัย กก.สิทธิ์ชุดอื้อฉาวที่เอื้อปชป. มาตลอด

จากกรณีผู้บริหารเครือมติ ชน-ข่าวสดชี้แจงตอบโต้คณะอนุกรรมการเฉพาะเรื่องตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีการ ส่งอีเมล์ของนักการเมือง ระบุการให้เงินและผลประโยชน์แก่ผู้ประกอบวิชาชีพสื่อมวลชน ของสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติที่มีน.พ.วิชัย โชควิวัฒน เป็นประธานอนุกรรมการ ซึ่งสรุปผลการสอบสวนเมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยการสอบสวนไม่พบหลักฐานถึงบุคคลที่ถูกพาดพิงถึงในอีเมล์ดังกล่าว ไม่สามารถชี้ได้ว่ารับสินบนจริง แต่คณะอนุกรรมการกลับแถลงกล่าวหาหนังสือพิมพ์ข่าวสดและมติชนในทางเสียหาย ในประเด็นที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องที่สภาการหนังสือพิมพ์ฯมีคำสั่งให้ สอบแต่อย่างใด นอกจากนี้ยังเปิดเผยนาม ปากกาของผู้เกี่ยว ข้อง ซึ่งถือเป็นการละเมิดจรรยาบรรณสภาการหนังสือพิมพ์ฯอย่างร้ายแรง พร้อมกับตั้งข้อสังเกตถึงเจตนาของ น.พ.วิชัยที่แสดงออกมาในครั้งนี้ ขณะเดียวกันทันทีที่คณะอนุกรรมการชุดน.พ.วิชัยแถลงเสร็จสิ้น ทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ก็รับลูกดำเนินการยื่นร้องกกต.ให้ยุบพรรคเพื่อไทย ตามข่าวที่เสนอไปแล้วนั้น

ปชป.เด้งรับลูก"หมอวิชัย"

ความ คืบหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ เมื่อวันที่ 19 ส.ค.ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายวิรัตน์ กัลยาศิริ ส.ส.สงขลา หัวหน้าคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย พรรคประชาธิปัตย์ แถลงว่า กรณีนายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์กับคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย เคยยื่นเรื่องร้องต่อกกต. กรณีกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ทำผิดกฎหมายเลือกตั้งจูงใจทำให้ประชา ชนเข้าใจผิดในคะแนนนิยมไปแล้ว เพราะเอารูป น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ อย่างดี อย่างสวย อย่างงาม แต่ถ้าเป็นรูปของพรรคอื่น รูปของพรรคประชาธิปัตย์หน้าเบี้ยว หน้าบูดก็ใส่เข้าไป ในที่สุดคณะกรรมการไต่สวนก็ยืนยันแล้วว่า การกระทำเช่นนี้ไม่ใช่เป็นการสื่อสาร ไม่ใช่เป็นเรื่องการข่าว แต่เป็นการโฆษณา ซึ่งตนอยากใช้คำว่าเป็นการโฆษณาทางการเมือง ซึ่งคณะกรรมการของสภาการหนังสือพิมพ์ฯก็ยืนยันแล้วว่ามี ข่าวสด มติชน ไทยรัฐ เพราะฉะนั้นในวันเดียวกันนี้ ตนได้ไปยื่นหนังสือต่อกกต.เพิ่มเติมซึ่งเป็นเอกสารเกี่ยวกับผลสอบของสภาการ หนังสือพิมพ์ฯ กรณีนายวิม วัฒนจินดา กรรม การบริหารพรรคเพื่อไทย ส่งจดหมายอิเล็กทรอ นิกส์ไปยังสื่อมวลชนต่างๆ โดยเจ้าหน้าที่กกต. แจ้งว่าจะนำเอกสารดังกล่าวไปรวมกับเรื่องที่นายบุญยอดยื่นเอาไว้แล้ว เพื่อพิจารณาโดยด่วน

นายวิรัตน์ กล่าวอีกว่า ขอเรียกร้องไปยังกกต.ทั้ง 5 คนว่าขอให้สั่งการให้หยิบยกเรื่องนี้มาพิจารณาโดยด่วน เพราะสภาการหนังสือ พิมพ์ฯได้ดำเนินการตั้งคณะกรรมการและวินิจฉัยชี้ขาดไปแล้วว่า เป็นการใช้สื่อในทางที่ไม่ถูกต้อง เป็นการโฆษณา ไม่ได้เป็นการส่งข่าวสารตามปกติ และนายวิมเป็นกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย เมื่อทำผิดจึงอยากให้เร่งพิจารณา เพราะเรื่องนี้มีผลได้ผลเสียต่อประชาชน ซึ่งเมื่อสอบ สวนเสร็จแล้ว กกต.จะได้ส่งคำร้องต่อศาลรัฐ ธรรมนูญเพื่อให้ยุบพรรคเพื่อไทย และตัดสิทธิ์กรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยต่อไป เนื่องจากเป็นการกระทำเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศ โดยวิธีการซึ่งไม่เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้

สภาการน.ส.พ.ยังไม่ได้สรุปผล

วัน เดียวกันนายสุนทร จันทร์รังสี รองประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ทำหน้า ที่แทนประธานสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ เปิดเผยถึงผลสรุปข้อเท็จจริงกรณีการส่งอีเมล์ของนักการเมืองระบุการให้เงิน และผลประ โยชน์แก่ผู้ประกอบอาชีพสื่อมวลชนของคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ ที่มีน.พ. วิชัย โชควิวัฒน เป็นประธาน ตามที่สภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติตั้งขึ้นว่า หลังจากรับทราบรายงานดังกล่าวแล้ว ที่ประชุมสภาการหนังสือ พิมพ์ฯมีความเห็นให้ดำเนินการตามธรรมนูญสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติ ทั้งนี้ธรรมนูญสภาการหนังสือพิมพ์ฯ ข้อ 22 กำหนดว่าหลังจากคณะอนุกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงฯ และรายงานผลการศึกษาแล้ว จะต้องแจ้งต้นสังกัดทั้ง 5 ฉบับ และผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 5 รายรับทราบภายใน 30 วัน ซึ่งผู้ที่ถูกพาดพิงยังมีสิทธิ์ยื่นคำคัดค้านภายใน 20 วัน หากเห็นว่ายังมีพยานหลักฐานและเหตุผลอื่นที่ยังไม่ได้รับการพิจารณา โดยหากมีการร้องคัดค้านดังกล่าว สภาการหนังสือ พิมพ์ฯจะต้องตั้งคณะอนุกรรมการรับอุทธรณ์ เพื่อดำเนินการแสวงหาข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานเพิ่มเติม ก่อนที่จะนำเสนอสู่การพิจารณาของที่ประชุมสภาการหนังสือพิมพ์แห่งชาติต่อไป

"สภา การหนังสือพิมพ์ยังไม่ได้วินิจฉัยความผิดของผู้ถูกกล่าวหาว่า ผิดตามข้อกล่าวหาหรือไม่ เพียงแต่ได้ดำเนินการขั้นตอนตามธรรมนูญของสภาการหนังสือพิมพ์ฯ ตามที่ชี้แจงมาข้างต้นเท่านั้น และจะมีการพิจารณาเรื่องนี้ต่อไปในการประชุมของสภาการหนังสือพิมพ์ฯครั้ง หน้าคือ วันที่ 13 ก.ย." ผู้ทำหน้าที่แทนประธานสภาการหนังสือพิมพ์ฯกล่าว

กกต.ไม่ควรนำผลสอบไปพิจารณา

นาย สุนทร กล่าวอีกว่า การรายงานผลการสอบสวนของอนุกรรมการในเรื่องดังกล่าวต่อสภาการหนังสือพิมพ์ฯ เมื่อวันที่ 17 ส.ค.ที่ผ่านมา ยังไม่ใช่ข้อสรุป เพราะตามขั้นตอนผู้ถูกกล่าวหายังสามารถยื่นอุทธรณ์คัดค้านผลการสอบสวนได้อีก ซึ่งผลการพิจารณาของอนุกรรมการชุดนี้เปรียบเสมือนเป็นแค่ศาลชั้นต้นเท่านั้น แต่ถ้าผู้ถูกกล่าวหาไม่ยื่นอุทธรณ์คัดค้านภายในเวลาที่กำหนดก็จะถือเป็นการ ยอมรับความผิด ส่วนการดำเนินการเรื่องดังกล่าวในวันที่ 17 ส.ค.นั้น เป็นเพียงการประชุมเพื่อรับฟังการรายงานผลการสอบสวนของอนุ กรรมการ ซึ่งก่อนการประชุมมีการตกลงกันว่า จะแถลงข่าวกรณีดังกล่าวในวันที่ 19 ส.ค. แต่ก่อนการประชุมพบว่ามีสื่อมวล ชนเดินทางมาติดตามทำข่าวจำนวนมาก จึงอนุญาตให้เข้ามาเก็บภาพก่อนการประชุมได้ประมาณ 5 นาที จากนั้นจึงเชิญออกนอกห้องประชุม ก่อนจะพิจารณา โดยมุ่งเน้นให้ความเป็นธรรมอย่างมีหลักการกับทุกฝ่าย และใช้เวลาพิจารณาประมาณ 1 ช.ม. เมื่อประชุมเสร็จสิ้น จึงหารือว่าในตอนนี้ยังมีสื่อมวลชนนั่งรอ เพื่อทำข่าวอยู่บริเวณหน้าห้องประชุมจำนวนมาก ก่อนจะมีความเห็นให้แถลงข่าวเรื่องนี้ในวันดังกล่าวเลย เพราะอนุกรรมการจะได้ไม่ต้องเดินทางมาร่วมแถลงข่าวในวันที่ 19 ส.ค.อีก

เมื่อ ถามถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์เตรียมนำผลการสอบสวนของอนุกรรมการไปยื่นเป็น หลักฐานให้กกต.พิจารณายุบพรรคเพื่อไทยเพิ่มเติม นายสุนทร กล่าวว่า ตนยังไม่ทราบว่าพรรคประชาธิปัตย์จะดำเนินการในลักษณะดังกล่าว ซึ่งสภาการหนังสือพิมพ์ฯไม่ได้เป็นเครื่องมือของการเมืองและไม่ควรไปยุ่ง เกี่ยวด้วยซ้ำ โดยส่วนตัวเชื่อว่ากกต.คงไม่ต้องรอผลการสอบสวนของสภาการหนังสือพิมพ์ฯ เพราะ กกต.ก็มีฝ่ายสืบสวนที่มีเจ้าหน้าที่มากกว่าของสภาการหนังสือ พิมพ์ฯ ดังนั้นกกต.จึงน่าจะมีแนวทางของการสอบสวนเรื่องนี้อยู่แล้ว ประกอบกับเรื่องดังกล่าวแตกต่างและถือเป็นคนละส่วนกัน กกต. จึงไม่ควรถือผลการสอบสวนของสภาการหนังสือ พิมพ์ฯไปประกอบการพิจารณา

"เรื่อง ในลักษณะนี้มีหลักปฏิบัติอยู่ในระเบียบของสภาการหนังสือพิมพ์ฯอยู่แล้ว ซึ่งถ้ามีใครถูกหนังสือพิมพ์หมิ่นประมาทก็สามารถมาร้องทุกข์กล่าวโทษต่อสภา การหนังสือพิมพ์ฯได้ แต่เมื่อเรารับเรื่องไว้พิจารณาแล้ว และผู้เสียหายกลับนำเรื่องไปฟ้องต่อศาล เราก็จะยุติการพิจารณาทันที เพราะต้องปล่อยให้เป็นดุลพินิจของศาลพิจารณา" ผู้ทำหน้าที่แทนประธานสภาการหนังสือพิมพ์ฯกล่าว

"มาร์ค"เลี่ยงตอบสัมพันธ์หมอวิชัย

ต่อ มาที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัม ภาษณ์ถึงกรณีมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับน.พ. วิชัย โชควิวัฒน ว่า เป็นเรื่องแปลก เพราะไปนำเอาจดหมายฉบับหนึ่งที่เสนอแนะเรื่องตัวปลัด และในที่สุดรัฐบาลก็ไม่ได้พิจารณาตามคำแนะนำ ตนว่าอย่าไปเบี่ยงเบนประเด็น เวลาที่นักการเมืองถูกสอบ มักตำหนิว่าอย่าไปตอบโต้เรื่องตัวคนสอบให้ตอบโต้ชี้แจงด้วยเนื้อหาสาระ วันนี้พอมติชน ข่าวสด ถูกพาดพิงเองกลับใช้วิธีที่ตำหนิคนอื่นมาตลอด

เมื่อ ถามว่าการที่ยังไม่มีกฎหมายมาดูแลวิชาชีพสื่อจึงทำให้เกิดช่องว่าง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า นี่คือส่วนหนึ่งที่เราพยายามทำตอนนั้น แต่เรื่องค้างอยู่ที่คณะกรรมการกฤษฎีกา เพราะเราระวังเรื่องกฎหมาย พอเอาเรื่องกฎหมายและมีอำนาจรัฐเข้ามาเกี่ยว เดี๋ยวรัฐก็เข้าไปแทรก แซง เราพยายามให้เกียรติ ให้สื่อตรวจสอบกันเอง และเมื่อตรวจสอบแล้วก็ยังไม่สามารถที่จะดำเนินการอะไรกันได้อย่างเป็น รูปธรรมมันก็จะเป็นปัญหาต่อไป เรื่องนี้มติชน ข่าวสด ก็ต้องไปชี้แจงต่อสภาการหนังสือพิมพ์ เราอยากให้สื่อร่วมมือกันเอง การที่สื่อดูแลกันเองได้ ก็ต้องมีองค์กรซึ่งทุกคนให้ความร่วมมืออย่าไปเปิดช่องให้เป็นเรื่องของคน อื่นเข้าไปแทรกแซงเลย

เมื่อถามว่าถ้าพรรคเพื่อไทยมีการบริหารจัดการ สื่ออย่างเป็นระบบได้ในช่วงหาเสียง และเมื่อเข้ามาเป็นรัฐบาลการบริหารจะเป็นระบบมากขึ้นหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า เริ่มมีสัญญาณ เริ่มมีข่าวอยู่ อีกไม่กี่วันอาจจะเห็นชัดเจนขึ้น

เปิดจ.ม.หมอวิชัยลึกซึ้งปชป.

ผู้ สื่อข่าวรายงานถึงความสัมพันธ์ใกล้ชิดระหว่างน.พ.วิชัย โชควิวัฒน กับนายอภิสิทธิ์ และพรรคประชาธิปัตย์ ว่า น.พ.วิชัยเคยทำจดหมายส่วนตัวถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ขณะเป็นนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ 1 กันยายน 2552 เสนอให้แต่งตั้ง น.พ.ชูชัย ศุภวงศ์ ที่ปรึกษาระดับ 11 สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เป็นปลัดกระทรวงสาธารณ สุข มีใจความดังนี้

"กราบเรียน ท่านนายกรัฐมนตรีที่รักและนับถือยิ่ง

กระทรวง สาธารณสุขขณะนี้ อ่อนแอทั้งวิชาการ การบริหาร และคุณธรรม หากไม่มีการแก้ไขนอกจากจะไม่สามารถเผชิญกับปัญหายากๆ อย่างไข้หวัดใหญ่ 2009 ระลอกสอง และไม่สามารถผลักดันนโยบายสำคัญของรัฐบาลอย่างนโยบายโรงพยาบาลส่งเสริม สุขภาพตำบลได้แล้ว โครงการเมกะโปรเจ็กต์ต่างๆ จะเกิดปัญหาการทุจริตซึ่งจะกระทบต่อภาพลักษณ์ของรัฐบาลรุนแรงและร้ายแรงยิ่ง กว่ากรณีทุจริตยา 1,400 ล้าน

กระทรวงสาธารณสุขขณะนี้จึงต้องการผู้นำ โดยเฉพาะปลัดกระทรวงที่ กล้าแข็ง มีความรู้ ความสามารถ บารมีเพียงพอ และเชื่อถือไว้วางใจได้ เข้ามากอบกู้สถานการณ์ ซึ่งมองไปทั่วแล้ว ผมขอกราบเรียนว่า น่าจะถึงนายแพทย์ชูชัย ศุภวงศ์ ลูกหม้อเก่ากระทรวงสาธารณสุข ขณะนี้เป็นข้าราชการพลเรือนระดับ 11 อยู่ที่สำนักงานสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กลับมาทำหน้าที่นี้

ผมเชื่อ มั่นว่า นายแพทย์ชูชัย มีความรู้ความสามารถและคุณสมบัติต่างๆ เหมาะสมกับสถานการณ์ขณะนี้อย่างยิ่ง ข้อสำคัญยังเป็นผู้ที่ทุ่มเททำงานให้พรรคประชาธิปัตย์มาอย่างยืนหยัดยาวนาน ซึ่งท่านชวน หลีกภัย รู้จักและคุ้นเคยดี

จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา"

"หมอชูชัย"กก.สิทธิ์ชุดอื้อฉาว

สำ หรับน.พ.ชูชัยปัจจุบันดำรงตำแหน่งเลขา ธิการคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งล่าสุดถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก กรณีสรุปผลการสอบสวนข้อเท็จจริงเหตุการณ์สลายคนเสื้อแดง 91 ศพ โดยปกป้องรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ และกล่าวหาว่านปช.เป็นฝ่ายผิดแทบทุกกรณี ซึ่งจะเห็นได้ว่าในจดหมายที่เขียนโดยน.พ.วิชัยนั้น ใช้คำว่า "นายแพทย์ชูชัย มีความรู้ความสามารถและคุณสมบัติต่างๆ เหมาะสมกับ สถานการณ์ขณะนี้อย่างยิ่ง ข้อสำคัญยังเป็นผู้ที่ทุ่มเททำงานให้พรรคประชาธิปัตย์มาอย่างยืนหยัดยาวนาน"

พท.โต้ข้อหา-ชี้สื่อมีศักดิ์ศรี

ที่ ทำเนียบรัฐบาล น.พ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงผลสรุปของคณะอนุกรรมการที่มีน.พ.วิชัย เป็นประธานว่า เชื่อว่านายวิม รุ่งวัฒนจินดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทยไม่ได้ทำอย่างที่เป็นข่าว แต่ทราบว่าสภาการหนังสือพิมพ์ได้พิจารณาเรื่องนี้ ก็ไม่น่ากังวลเพราะสอบถามนายวิมแล้วว่าไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่ได้ทำอย่างที่เขาว่า

ผู้สื่อข่าวถามว่าถ้าเรื่องถึงศาลรัฐ ธรรมนูญจริง พรรคจะมีหลักฐานชี้แจงและแก้ข้อกล่าวหาหรือไม่ น.พ.สุรวิทย์ กล่าวว่า ยังไม่ได้ลงลึกขนาดนั้น

เมื่อถามว่าจากการสอบพบว่าผิดในแง่ จริยธรรมแต่ไม่มีหลักฐาน จะสร้างแรงเสียดทานไปยังพรรคเพื่อไทยหรือไม่ น.พ.สุรวิทย์ กล่าวว่า ไม่น่าจะถึงขนาดนั้น ปกติพรรคเพื่อไทยรณรงค์หาเสียง เน้นปราศรัยหาเสียง จะเห็นได้ว่าการรณรงค์ครั้งนี้ มีพรรคเดียวที่หาเสียงโดยการปราศรัย ขณะที่ตนยังลงพื้นที่ปราศรัยครบทุกหมู่บ้าน ในฐานะเลขานุการ ส.ส.อีสาน พรรคเพื่อไทย ได้พูดคุยและรับนโยบายจากพรรคแล้วไปพูดคุยกับผู้สมัครในทุกเขตของภาคอีสาน ให้อยู่ในกรอบกฎหมาย

เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้พรรคมีการเอื้อประ โยชน์ให้กับสื่อ เพื่อให้ช่วยประชาสัมพันธ์ในช่วงเลือกตั้งหรือไม่ น.พ.สุรวิทย์ กล่าวว่า ไม่มีแน่นอน เชื่อว่าสื่อมวลชนมีศักดิ์ศรี คงไม่ทำอย่างนั้น พรรคเพื่อไทยเน้นกรอบกฎหมาย สื่อก็มีศักดิ์ศรีทุกคนทุกฉบับ ใครจะมาใส่ร้ายอะไร ก็ไม่ได้หนักใจ เพราะเชื่อว่าเรื่องนี้นายวิมไม่ได้ทำตามที่เขากล่าวหา

เหน็บมรดกปชป.จากรุ่นสู่รุ่น

เมื่อ ถามถึงนโยบายกับสื่อ น.พ.สุรวิทย์ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ได้รับมอบหมายเป็นทางการว่าให้ดูแลสื่อ เพียงแต่มีผู้ใหญ่พูดไว้เบื้องต้น แต่ถ้าได้ดูแลสื่อจริง จะให้สื่อทุกแขนงทำหน้าที่อย่างเสรี มีกรอบที่ทุกคนยอมรับ ในแนวทางสร้างสรรค์และเป็นประโยชน์กับประเทศชาติ ในแนวทางสร้างความปรองดองสามัคคี ทุกคนนำข้อมูลความจริงปรากฏในทางสร้างสรรค์

ด้านนายนพดล ปัทมะ ที่ปรึกษากฎหมาย พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวว่า กรณีพรรคประชาธิปัตย์ร้องยุบพรรคเพื่อไทยในประเด็นบริหารจัดการสื่อนั้น ประชาชนเริ่มเห็นความชำนาญในการทำหน้าที่ฝ่ายค้านของพรรคประชาธิปัตย์ เป็นความสามารถที่ตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น ประเทศไทยโชคดีที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล มีประชาธิปัตย์เป็นฝ่ายค้านที่เข้มแข็ง จะทำให้พรรคเพื่อไทยระมัดระวังตัว ทำงานมีประสิทธิภาพขึ้น

"หมอวิชัย"ชงข้อมูลให้กกต.

สำนัก งานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เผยแพร่เอกสารข่าวชี้แจงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ยื่นหนังสือทวงถามความคืบ หน้ากรณีที่มีอีเมล์ระบุว่าพรรคเพื่อไทยได้ใช้เงินบริหารสื่อว่า ที่ผ่านมีการวิพากษ์วิจารณ์ว่ากกต.ไม่ได้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวนั้นไม่ เป็นความจริง เนื่องจากการร้องของพรรคประชาธิปัตย์ครั้งแรกที่มีนายบุญยอด สุขถิ่นไทย รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ในขณะนั้น) ได้มายื่นคำร้องเรียน กรณีกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย และพรรคเพื่อไทยกระทำการใดเพื่อให้ได้มาซึ่งเวลาในการโฆษณาทางวิทยุ โทรทัศน์ และกรณีให้เงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์ อื่นใดอันอาจคำนวณเป็นเงินได้ เพื่อให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนหรืองดเว้นการลงคะแนนให้ผู้สมัครหรือ พรรค การ เมืองใด เมื่อวันที่ 10 ก.ค. 2554 และได้มายื่นคำร้องอีกครั้งในวันที่ 11 ก.ค. 2554

โดยเลขาธิการกก ต.ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ตรวจคำร้องเพื่อประกอบการพิจารณาสั่งรับหรือไม่ รับเป็นเรื่องคัดค้านตามระเบียบกกต. และเลขาธิการกกต.ได้สั่งให้รับเป็นคำร้องคัดค้านในวันที่ 23 ก.ค.2554 จากนั้นได้ส่งคำร้องคัดค้านดังกล่าวให้คณะกรรมการสืบสวนสอบสวนดำเนินการสืบ สวนสอบสวน ในวันที่ 25 ก.ค. 2554 ต่อมาวันที่ 26 ก.ค. 2554 คณะกรรมการสืบสวนสอบสวนก็ได้ทำหนังสือเชิญ นายบุญยอด สุขถิ่นไทย เพื่อมาให้ปากคำ โดยนายบุญยอดได้เดินทางมาให้ปากคำในวันที่ 3 ส.ค. 2554 หลังจากนั้นคณะกรรมการสืบสวนสอบสวนได้ทำหนังสือเชิญพยานที่เกี่ยวข้องมาให้ ปากคำโดยตลอด แต่การสืบสวนสอบสวนในกรณีดังกล่าวมีพยานเป็นจำนวนมาก เป็นเรื่องที่มีความเกี่ยวพันกับพรรคการเมือง ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการสืบสวนสอบสวน ตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการสืบสวนสอบ สวนและวินิจฉัยชี้ขาด พ.ศ. 2554

รายงานข่าวจากกกต. แจ้งว่า น.พ.วิชัย โชควิวัฒน ประธานอนุกรรมการสอบสวนของสภาการหนังสือพิมพ์ฯได้เข้าให้ข้อมูลกับคณะสอบ สวนของกกต. กรณีที่นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ร้องต่อกกต. เมื่อวันที่ 18 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยเรื่องดังกล่าวสำนักงานกกต.มอบหมายสำนักสืบสวนและวินิจฉัย 5 ดำเนินการสอบสวนเรื่องดังกล่าว คาดว่าภายในสัปดาห์หน้าจะได้ข้อสรุป

นักวิชาการลอกคราบ"หมอวิชัย"

วัน เดียวกันรายการ Wake up Thailand สถานีโทรทัศน์ผ่านดาวเทียม วอยซ์ทีวี ที่มีดร.พิชญ์ พงษ์สวัสดิ์ อาจารย์คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ นายชูวัส ฤกษ์ศิริสุข และนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เป็นผู้ดำเนินรายการ โดยช่วงที่สองของรายการพูดถึงกรณีสภาการหนังสือพิมพ์พิจารณาคดีสื่อโดยคณะ อนุกรรมการสอบอีเมล์นักการเมืองของสภาการหนังสือพิมพ์ ที่มีน.พ. วิชัย โชควิวัฒน เป็นประธาน ผู้ดำเนินรายการอ่านเนื้อหาข่าวดังกล่าวของหนังสือพิมพ์ข่าวสด ที่ระบุว่า ผลสอบไม่พบการจ่ายสินบนแต่น.พ. วิชัยกลับแถลงข่าวถึงการนำเสนอข่าวของข่าวสด และมติชน อย่างเสียหาย

ดร.พิชญ์ กล่าวว่า ภาพรวมวันนี้เกิดวิกฤตการตัดสินคดีต่างๆ ซึ่งประเด็นอยู่ที่การตรวจสอบปัญหาใหญ่อยู่ที่การตัดสิน ตอนนี้เกิดวิกฤตเรื่องนี้ตั้งแต่กรรมการสิทธิมนุษยชนมาก็อ้างข้อมูลของเขา ชุดหนึ่ง ซึ่งครั้งนี้จะเป็นการย้อนรอยกรรมการสิทธิฯหรือเปล่า ทั้งนี้ส่วนตัวเห็นว่าการนับปริมาณภาพอย่างเดียวมันพอหรือไม่ การนับแบบนั้นมันใช้หลักวิชาการอื่นนอกจากการนับเชิงปริมาณหรือไม่ ซึ่งข่าวสดออนไลน์เองก็ได้เปิดจดหมายลับน.พ.วิชัยถึงนายกฯอภิสิทธิ์ โดยเนื้อหาจดหมายบอกว่าน.พ.วิชัยเคยเขียนจดหมายส่วนตัวถึงนายอภิสิทธิ์ เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2552 เสนอให้ตั้งน.พ.ชูชัย ศุภวงศ์ ที่ปรึกษาระดับ 11 ของคณะกรรมการสิทธิฯ เป็นปลัดกระทรวงสาธารณสุข พูดง่ายๆ คือ ไปล็อบบี้ โดยชื่นชมน.พ.ชูชัย ว่า มีความรู้ ความสามารถ บารมีเพียงพอ เชื่อถือไว้ใจได้มากอบกู้สถานการณ์ ที่สำคัญยังเป็นคนที่ทุ่มเททำงานให้พรรคประชาธิปัตย์ มาอย่างยืนหยัดยาวนาน

ดร.พิชญ์ กล่าวอีกว่า จากเนื้อหาของจดหมายที่น.พ.วิชัยเขียนถึงนายอภิสิทธิ์ ก็หมายความว่าปลัดกระทรวงควรต้องฝักใฝ่พรรคการเมือง ซึ่งโยงต่อว่าต้องถามว่าน.พ.วิชัยใช้ความสัมพันธ์อะไรไปยืนยันว่าหมอชูชัยไป ภักดีกับพรรคประชาธิปัตย์

ดร.พิชญ์ กล่าวต่อว่า 91 ศพปีที่แล้วเป็นจุดพลิกผันเยอะ อย่างในวงการนักวิชาการหลายท่านที่ช่วงรัฐประหารไม่ได้ออกมาบู๊ พอหลัง 91 ศพ มีความชัดเจนขึ้นมาเยอะ หรือเรียกได้ว่าตาสว่าง

ด้านนายชูวัส กล่าวว่า การที่น.พ.วิชัยพูดแบบนี้ มีวิธีการสืบสวนแบบนี้ คนในวงการรู้เลยว่าให้ใครทำ น.พ.วิชัยใช้วิธีการเดิมๆ อีกแล้วในการจัดการ ซึ่งไม่แฟร์มากๆ เพราะไม่มีหลักการไม่มีวิธีวิจัยที่ได้มาตรฐานเพียงพอเพื่อตอบโจทย์ การนับปริมาณแล้วมาปั๊มตราให้คนหนึ่งผิดมันไม่แฟร์ เป็นการเลือกปฏิบัติ

ขณะ ที่นายสุรนันทน์ กล่าวว่า คนหนึ่งซึ่งมีทุนสังคมสูงแต่ใช้ทุนสังคมตรงนั้นมาบอกว่าคนนี้ดีคนนี้ไม่ดี ถูกตรวจสอบแค่ไหนไม่มีใครรู้ เรื่องนี้ไม่ยุติธรรมจริงๆ เพราะการทำหนังสือ พิมพ์เป็นศิลปะของเขา ต้องเข้าใจว่าต้องการขายได้ ดังนั้นเวลาวางแผงหน้า 1 ต้องคิดว่าขายได้ ประชาชนเห็นแล้วอยากซื้อ ซึ่งทุกฉบับพยายามอย่างที่สุดแล้ว ที่ผ่านมาช่วงรัฐบาลชุดที่แล้วมีความเข้าใจว่ามติชน ข่าวสด ไปเข้าข้างคนเสื้อแดง ซึ่งเมื่อก่อนข่าวสดก็เป็นกลุ่มหนึ่งที่วิพากษ์ วิจารณ์พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ อย่างรุนแรง จนเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดการสั่นคลอนอำนาจ แต่จากเหตุการณ์ 91 ศพ ทุกอย่างก็ชัดขึ้น

ข่าวสด-มติชนออกแถลงการณ์

วันเดียว กันเครือมติชน-ข่าวสดออกแถลง การณ์ มีใจความสรุปว่า ในฐานะผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงจากการสอบสวนดังกล่าว ไม่สามารถยอมรับผลการสอบสวนดังกล่าวได้ และมีความเห็นว่าการสอบสวนครั้งนี้ดำเนินไปโดยผิดหลักทั้งด้านกฎหมาย ความมีเหตุผล และจรรยาบรรณแห่งวิชาชีพ

Related Posts by Categories



You want it? Click here | Yul Jet

No comments:

Post a Comment